บทสรุปเกม แมนซิตี้ กับ ปารีส

 

อีกหนึ่งเกมฟุตบอลที่เราต้องยอมรับว่าผิดคาดพอสมควรระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ปารีส ที่เกมนี้จบง่ายอย่างที่คิด ตอนแรกที่คิดว่าจะสนุกกว่านี้ บี้มันกว่านี้ แต่มันก็ไม่เป็นอย่างนั้น ต้องยอมรับว่ามาตรฐานในเกมแรกที่เล่นดีกันคนละครึ่ง มาเกมนี้กลายเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้เล่นดีไปทั้งซักประมาณ 70 นาที เหลือให้ ปารีส เล่นดีแค่ 20 นาทีแรกเท่านั้น

ระบบเหนือความสามารถ

สองทีมนี้ถือว่าเป็นแนวทางทำทีมที่แตกต่างกันแบบชัดเจน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมที่เน้นระบบการเล่นอันสวยงาม ผู้เล่นทุกคนต้องจะเล่นฟุตบอลตามระบบของเป๊ปได้ ออกบอลได้ตั้งแต่ผู้รักษาประตูยันกองหน้า ไม่ว่าใครจะเล่นตรงไหนก็ต้องทดแทนกันได้ตลอด กลับกันฝั่ง ปารีส เป็นการเล่นฟุตบอลที่เน้นความสามารถรายบุคคลมากกว่า การเล่นของนักเตะจะเน้นการเอาตัวรอดแบบ 1-1 เอาชนะอีกฝ่ายให้ได้ จากนั้นก็เข้าทำเอง แล้วให้เพื่อนสนับสนุน เกมนี้แสดงให้เห็นว่าระบบของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหนือกว่าระบบความสามารถเฉพาะตัวเยอะเลย

เป๊ปเล่นง่าย

โดยปกติ เวลาเกมสำคัญแบบนี้ เป๊ป มักจะแพ้ภัยตัวเองด้วยการเอาแผนอะไรมาก็ไม่รู้ ทำให้นักเตะสับสน จนทำให้แผนที่วางไว้ทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ผลก็คือ เจ้าตัวแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย แต่ว่าเกมนี้เป๊ป เปลี่ยนใหม่ เค้าเลือกที่จะทำอะไรที่ง่าย และ นักเตะคุ้นเคย การเลือกแผน 4-4-2 ทำให้นักเตะคุ้นเคยกับระบบการเล่นอยู่แล้ว แม้ว่าเกมนี้ จะไม่ได้ส่งกองหน้าลงสนามก็ตามที (หน้าสองคนเป็น เดอ บรอยด์ และ ซิลวา)

 เกมจบแต่วัน

เกมนี้ปารีสถือว่าเสียเปรียบอย่างมาก จากผลการแข่งขันในเกมแรกที่แพ้มาก่อน ทำให้เกมนี้พวกเค้าต้องยิงประตูให้ได้ก่อน สองลูก เพื่อทำให้ทุกอย่างมันเท่ากัน แต่ว่ากลายเป็น แมนซิตี้ ที่ยิงนำก่อนสองประตูจากการเหมาของ ริยาด มาห์เรซ ทำให้ ปารีส ต้องยิงให้ได้ สี่ประตูเป็นอย่างน้อย กับเวลาที่เหลือเพียงแค่ 30 นาที ซึ่งมันทำให้นักเตะ ปารีส ถอดใจเล่นแบบเห็นได้ชัดเจน แถมมาโดนแดงจนเหลือ 10 คนอีก ก็จบตั้งแต่หัววันแบบไม่ได้ลุ้น