ถือว่าเป็นประเด็นข่าวที่สร้างความฮือฮามากที่สุดในรอบสัปดาห์ รองจากผลการแข่งขันเอฟเอคัพที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป นั่นก็คือ เชลซีได้ทำการแยกทาง แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือของทีม แบบที่ไม่มีกระแสข่าวออกมาก่อนเลย สื่อเองก็รู้ก่อนข่าวแถลงการณ์จากสโมสรออกไม่นานเท่าไร อย่างไรก็ตามเรามาวิเคราะห์กันว่า ทำไม แลมพาร์ด ถึงตกเก้าอี้กุนซือได้
ผลงานไม่ดีพอ
สิ่งที่เป็นตัวตัดสินการตัดสินใจครั้งนี้ของบอร์ดบริหาร ก็เพราะว่าผลงานของเค้าไม่ดีพอ ซึ่งว่ากันตามตรงผลงานก็ไม่ได้แย่มากขนาดนั้น มองจากตรงนี้ แฟรงค์ แลมพาร์ด พาทีมจบที่ 2 ของถ้วยเอฟเอคัพ และได้ที่ 4 ไปลุย UCL ในซีซั่นนี้ได้ ไม่เท่านั้น ยังพาทีมเป็นแชมป์กลุ่มรอบแบ่งกลุ่มด้วย แต่ว่าตัดภาพมาล่าสุด เกมชนะ ฟูแล่ม 1-0 แต่ก่อนหน้านั้น 6 เกม ชนะ 1 เกม เสมอ 1 เกม แพ้ไปถึง 4 เกม (แถมยังแพ้ อาร์เซนอล ศึกแห่งศักดิ์ศรีอีก) จากเป็นจ่าฝูงตารางลีค ตอนนี้หล่นมาที่ 9 แล้วก็เลยไม่แปลกที่บอร์ดต้องตัดสินใจ
สตาร์ดังไม่เกิด
ก่อนหน้าซีซั่นจะเริ่ม เชลซี ได้ทุ่มซื้อนักเตะตามใจแลมพ์มาเพียบเลย การลงทุนกว่า 200 ล้านปอนด์ ถือว่าเป็นการลงทุนที่ไม่น้อยเลยในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ ปรากฏว่า นักเตะตัวความหวังอย่าง ไค ฮาร์แวตช์ , ติโม แวร์เนอร์ , ฮาคิม ซีเย็ค ไม่ได้แสดงผลงานได้ตามต้องการเท่าไร สตาร์ดังไม่เกิดอย่างนี้ บอร์ดเองก็เลยมองว่า แลมพ์ ไม่มีความสามารถในการดึงความสามารถนักเตะเหล่านั้นออกมา
เปลี่ยนก่อนไม่ทันการ
ผลพวงของฟอร์มที่ตกลงในช่วงนี้ แบบเถียงไม่ออก ทำให้บอร์ดยอมไม่ได้ ต้องรีบเปลี่ยนก่อนไม่ทันการ แม้ว่าตอนนี้อยู่อันดับ 9 แต้มห่างพื้นที่ UCL 6 แต้ม แม้จะมองว่าไม่มาก แต่ในสถานการณ์แบบนี้ 6 แต้ม ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย ไหนจะเกมที่ต้องเจอกับ แอต.
มาดริด ใน UCL อีก งานนี้ไม่ง่ายเลย จึงต้องเปลี่ยนก่อนถึงสถานการณ์ตรงนั้น นี่คือสาเหตุหลักที่ แลมพ์ กระเด็นออกไปจากตำแหน่ง