โดเมเน็ค

โดเมเน็คมือไม่ถึง ในความพยายามที่จะตัดขาดอดีตในช่วงทศวรรษหลังสุดของเลส์ เบลอส์

โดเมเน็ค

โดเมเน็ค

โดเมเน็คมือไม่ถึง ในความพยายามที่จะตัดขาดอดีตในช่วงทศวรรษหลังสุดของเลส์ เบลอส์ออกไปทั้งในส่วนที่รุ่งโรจน์ที่สุดคือการได้แชมป์โลก 1998 ต่อด้วยแชมป์ยุโรป 2000 และในส่วนที่น่าผิดหวังที่สุดอันเนื่องมาจากการตกรอบแรกฟุตบอลโลก 2002 และ รอบควอเตอร์ ไฟนัลยูโร 2004 โดเมเน็คได้ลงมือผ่าตัดทีมด้วยความใจร้อน อย่างน้อยก็ในสายตาของคนเก่าๆ ด้วยความเชื่อมั่นว่าทีมสามารถรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2006 ไปได้อย่างต่อเนื่องไม่ลำบากยากเย็นการทำทีมของโดเมเน็คจึงเป็นการสร้างทีมเพื่อยุคหลังฟุตบอลโลก 2006 ไปในตัว แต่ดูเหมือนว่าเขาจะมองข้ามความหนักหนาของภาระหน้าที่นี้ไปหน่อย มันน่าจะยังเร็วเกินไปที่จะสร้างทีมขึ้นรอบๆ แบร์กนาร์ เมนตี้ และริโอ มาวูบ้า ซึ่งแทบไม่มีประสบการณ์ในเกมระดับอินเตอร์แล้ว อีกทั้งมันน่าจะยังเร็วเกินไปที่จะเปลี่ยนแผงหลังของทีมแบบยกชุดโดยมอบหมายให้คู่ของ เซบาสเตียง สกิลลาซี่ – กาเอล ชิเวด์ เป็นเซสเตอร์ตัวหลักตั้งแต่ต้นและมันน่าจะยังเร็วเกินไปที่จะขจัดพวกเก๋าๆ ในทีมออหมดด้วยข้ออ้าง ที่ว่านักเตะกับความล้มเหลวที่โปรตุเกส

ด้วยความแน่วแน่ในหลักการของตน โดเมเน็คเหมือนจะก้าวพลาดตั้งแต่ต้น นอกจากจะแสดงให้เห็นว่าเลส์ เบลอส์ในยุคของเขาไม่จำเป็นจะต้องมี ซีเนดีน ซีดาน ลิลิยอง ตูราม และ โคลัด มาเกเลเล่ ที่ต่างพากันอำลาทีมชาติหลังได้พบปะกับนายใหญ่ตราไก่คนใหม่แล้ว โดเมเน็คยังไม่เห็นความสำคัญของตัวเก๋าๆ หลายรายไม่ว่าจะเป็น โอลิวิเยร์ ดากูร์ โยฮัน มิกูด์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรแบร์ ปิเรส ที่ขัดแย้งกับเขาโดยตรงหลังไม่ได้รับความไว้วางใจบ่อยครั้ง นอกจากนั้น โดเมเน็คยังแสดงให้เห็นถึงความไม่อยู่ร่องกับรอยด้วยการทดลองซ้ำซากจนทีมขาดความลังเลตัว เขาเป็นกุนซือที่พิสมัยระบบ 3-5-2 อย่างยิ่ง แต่ด้วยความที่เลส์เบลอส์ไม่ได้ใช้ระบบนี้มาเป็นสิบปีอีกทั้งนักเตะในทีมก็ไม่คุ้นเคยกับระบบนี้ในชีวิตประจำวันกับทีมต้นสังกัด ที่สุดแล้วเขาจำต้องอยู่ – เทิร์นกลับมาใช้ระบบ

อิสมาเอล

อิสมาเอล กองหลังคนดังแห่งบุนเดสลีกา

อิสมาเอล

อิสมาเอล

ปราการหลังวัย 29 เก็บเกี่ยวประสบการณ์ค้าแข้งได้มากเมื่อเดินทางออกจากฝรั่งเศส มาเล่นในบุนเดสลีกา ของเยอรมัน จนสร้างชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่ววงการ

หนุ่มชาวเมืองสตราส์บูร์กเนฟุตบอลอาชีพมาแล้วกับหลายสโมสรไม่ว่าจะเป็นคริสตัน พาเลซในแดนผู้ดี อังกฤษ,ล็องส์ ทีมชั้นนำของลีก เอิง ฝรั่งเศส หลังจากเริ่มต้นกับ กานส์ ก่อนมาลงเอยที่ สตราส์บูร์กและที่นี่เอง ทำเขาได้รับความสนใจจากแมวมองแวร์เดอร์ เบรเมน และได้ย้ายมาเล่นที่นี่ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2003

เพียงฤดูกาลแรกอิสมาเอลประสบความสำเร็จทันทีร่วมกับเบรเมน ทั้งตำแหน่งแชมป์บุนเดสลีกาและแชมป์เดเอฟเบ คัพ , เฟร้นช์ ลีก คัพ มาแล้วบนแผ่นดินเกิด

กับสถานการณ์ปัจจุบันในการแข่งขันฤดูกาล 2004-2005 แม้ว่าโอกาสป้องกันแชมป์บุนเดสลีกา จะมีความหวังริบหรี่ เมื่อโดน ชาลเก้ 04 และบาร์เยิร์น มิวนิค ทิ้งห่างหลายคะแนน (หลังจากจบนัดที่ 25 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม เบรเมน รั้งอันดับ 4 มี 44 คะแนน ตามหลังชาลเก้ จ่าฝูงอยู่ถึง 9 คะแนนด้วยกัน)

แต่เขาและเพื่อร่วมทีมก็หวังนำสโมสรทำอันดับให้ดีที่สุดในบอล ลีก เพื่อลุ้นพื้นที่ลุยยูฟ่าแชมเปี้ยน ลีกฤดูกาลหน้า ขณะเดียวกัน แวร์เตอร์ เบรเมน สามารถก้าวถึงรอบรองชนะเลิศเดเอฟเบโพคาลได้สำเร็จ ซึ่งพวกเขามีเป้าหมายที่จะป้องกันบัลลังก์แชมป์ถ้วยนี้ของตัวเองเอาไว้ให้ได้

ในการจับฉลากประกบคู่รอบตัดเชือก เจ้านกนางนวล เจอศึกหนักต้องไปเยือนถิ่นของชาลเก้ 04 แม้พวกเขาเลี่ยงการเผชิญหน้ากับบาร์เยิร์น มิวนิค ไปได้ (เสือใต้ ถูกจับฉลากด้วยการไปเยือนอาร์มีเนีย บีเลเฟลด์) โดยการแข่งขันจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 เมษายน

สโคลารี่-เดโก้

สโคลารี่เอ่ยปากชวนเดโก้เล่นทีมชาติโปรตุเกส มันน่ามหัศจรรย์มากที่ผมยิงประตูบราซิลได้

สโคลารี่-เดโก้

สโคลารี่-เดโก้

สโคลารี่เอ่ยปากชวนผมเล่นทีมชาติโปรตุเกส มันน่ามหัศจรรย์มากที่ผมยิงประตูบราซิลได้และทำให้ทีมชนะพวกเขาเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี แต่การเปลี่ยนสัญชาติของผมไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยสักนิด แฟนบอลต้องการให้ผมทำเช่นนั้นอยู่แล้ว

แน่นอนหัวใจผมยังเป็นบราซิลอยู่ และรู้ดีว่าไม่ช้าไม่นานก็ต้องมีโอกาสเล่นให้บราซิล ทว่าแทนที่จะบอกว่าผมทรยศพวกเขา ผมคิดว่าอยากตอบแทนประเทศที่เปิดโอกาสให้ผมกลายเป็นนักฟุตบอลเหมือนตอนนี้มากกว่า

เลือดในร่างกายผมยังเป็นบราซิเลียน แต่บางอย่างมันเปลี่ยนไปเมื่อผมจากที่นั่นมา ชีวิตผมมุ่งหน้าไปในอีกทิศทางหนึ่ง อีกทั้งการที่ผู้คนมากมายเอ่ยปากของผมให้เล่นทีมชาติโปรตุเกส ยิ่งทำให้ผมมุ่งมั่นขึ้นไปอีก

เดโก้ กลายเป็นนักเตะคนสำคัญที่ช่วยให้โปรตุเกสเข้าถึงนัดชิงชนะเลิศยูโร 2004 ที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพ แม้จะโชคร้ายพ่ายกรีซแบบพลิกล๊อก ประสบการณ์ที่เขาได้รับถือว่ายอดเยี่ยม เป็นอย่างยิ่ง

หน้าร้อนเมื่อปีที่แล้วถือว่าเป็นช่วงที่มหัศจรรย์มาก เมื่อคนทั้งประเทศมาให้กำลังใจทีมแบบนั้น น่าเสียดายที่เราทำให้พวกเขาไม่สมหวัง ดูเหมือนจะไม่มีวันไหนเศร้าเท่ากับวันนั้นอีกแล้ว เขาเอ่ยพลางถอนหายใจหนึ่งเฮือก

ความผิดหวังอีกหนึ่งอย่างตามหลังเขามาอีกในไม่กี่เดือนให้หลัง เมื่อเดโก้ พลาดรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรป หรือ บัลลง ดอร์ แบบหวุดหวิด ทั้งที่เขามีดีกรีคว้าแชมป์ลีก ยูโรเปี้ยน คัพ และเป็นรองแชมป์ยุโรปในนามทีมชาติ แค่นั้นก็น่าจะเพียงพอสำหรับการตัดสินใจของคณะกรรมการแล้ว

กอนซาโล่ อิกวาอิน เป็นตัวเลือกที่ดี หากเชลซีจะดึงตัวมาเสริมทีมเพิ่มสำหรับฤดูกาลหน้า

อย่างที่ทราบกันดี ว่าสำหรับตอนนี้หลังจากที่ศึกการแข่งขันของฤดูกาลที่ผ่านมาได้ปิดฤดูกาลเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้สิ่งที่กำลังคึกคักอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียวก็คือ กระแสของตลาดซื้อขายนักเตะรอบใหม่นั่นเอง และสำหรับในบทความนี้ก็เลยต้องขอเกาะกระแสกันหน่อย ด้วยการพูดถึงเกี่ยวกับกระแสข่าวตลาดซื้อขายนักเตะที่ถือว่าน่าสนใจกันหน่อย และสำหรับกระแสข่าวที่จะพูดถึงกันในบทความนี้นั้น เป็นกระแสข่าวของทีมสิงห์ไฮโซเชลซีแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ที่ตกเป็นข่าวกำลังหากกองหน้าตัวใหม่เพิ่ม และตัวเลือกล่าสุดที่พวกเขาให้ความสนใจก็คือ กอนซาโล่ อิกวาอิน กองหน้าตัวเก่งของทีมนาโปลีนั่นเอง

โดยทั้งนี้สำหรับเหตุผลที่ทีมสิงห์ไฮโซเชลซีของกุนซือโฆเซ่ มูริญโญ่นั้น ตกเป็นข่าวกับกองหน้าเพิ่มอีกครั้ง นั่นก็เพราะฤดูกาลหน้าพวกเขาจะไม่มีกองหน้าอีกคนอย่างเจ้า ดิดิเย่ร์ ดร็อกบาอยู่ช่วยทีมนั่นเอง ทำให้มีกระแสข่าวออกมาว่า ทางเชลซีนั้นกำลังมองหากองหน้าตัวใหม่เพิ่มเข้ามาอีกคน และหนึ่งในตัวเลือกที่พวกเขาให้ความสนใจก็คือ เจ้ากอนซาโล่ อิกวาอิน นั่นเอง ซึ่งถึงตรงนี้นั้น ต้องบอกว่า ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า สุดท้ายแล้วทางด้านทีมสิงห์ไฮโซเชลซีนั้น ให้ความสนใจในตัวของเจ้า กอนซาโล่ อิกวาอิน จริงๆรึเปล่า แล้วพวกเขาต้องการเสริมกองหน้าตัวใหม่เพิ่มจริงๆรึเปล่า แต่ถ้าเป็นจริงตามที่กล่าวมา ต้องบอกว่า สำหรับเจ้ากอนซาโล่ อิกวาอิน นั้นถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวหากว่าเชลซีจะดึงตัวมาเสริมทีมในฤดูกาลหน้าจริงๆ

สำหรับเหตุผลว่าทำไมนั้น คงไม่ต้องพูดอะไรให้มากมาย เพราะว่าผลงานของเจ้า กอนซาโล่ อิกวาอิน ที่ผ่านมานั้น ก็น่าจะเป็นตัวคำตอบที่ยืนยันได้ดีอยู่แล้ว ว่าทำไมถึงต้องบอกว่า เขาคือตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวหากว่าเชลซีจะดึงมาเสริมทีม เพราะว่าสำหรับเจ้า กอนซาโล่ อิกวาอิน นั้นต้องบอกว่า เป็นกองหน้าฝีเท้าดีระดับต้นๆคนนึงเลย เป็นนักเตะที่โดดเด่นเรื่องการจบสกอร์ได้ดีคนนึงเลยก็ว่าได้ ซึ่งเชื่อว่า ถ้าหากเชลซีได้เขามาเสริมทีมในฤดูกาลอีกคน เขาน่าจะช่วยตอบสนองความต้องการของทีมในเรื่องของการผลิตสกอร์ได้ดีแน่นอน เพราะผลงานที่ผ่านมากับนาโปลีฤดูกาลล่าสุดนั้น ก็เป็นตัวคำตอบยืนยันได้ดีแล้วว่า ตอนนี้เขายังคงเป็นกองหน้าที่ไว้ใจเรื่องการผลิตสกอร์ได้อยู่ เชื่อว่าเขาจะเข้ามาเพิ่มความดุดันในเกมรุกของเชลซีได้เป็นอย่างดีแน่นอนนั่นเอง.

สิ่งที่จะเกิดขึ้นของลิเวอร์พูล เมื่อไม่ได้ ติโม แวร์เนอร์

หงส์ชวด ติโม แวร์เนอร์!!
ข่าวการวืดตัวติโม แวร์เนอร์ ของลิเวอร์พูลสัญญาณเริ่มแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องบอกตามตรงว่าไม่น่าเชื่อเหมือนกัน ตลอดทั้งซีซั่นทั้งนักเตะ โค้ช และนักเตะตำนานของทีมต่างออกมาอวย แวร์เนอร์ กันแบบพรึ่บ น่าเสียดายว่าด้วยเหตุผลทางด้านการเงินและฟุตบอล ทำให้พวกเค้าน่าจะชวดดีลนี้ไป อย่างไรก็ตามการวืดตัวแวร์เนอร์ มันก็ยังมีอะไรๆดีอยู่บ้าง มีอะไรกันบ้าง

เมื่อไม่มีใครมา ก็ไม่มีใครไป

ส่วนตัวเราเชื่อว่าการมาของแวร์เนอร์ ไม่ได้มาเสริมทัพ 3 ประสานแนวหน้าอย่าง มาเน่, ซาลาห์ หรือ เฟอร์มิโน่ แต่น่าจะมาแทนคนใดคนหนึ่งที่มีแววเสียไปเพื่อแลกกับเงินก้อนโต แต่พอเจอสถานการณ์โควิท 19 เข้าไปทำให้ทีมที่คาดว่าจะมาซื้อคนใดคนหนึ่งคงต้องพับแผนโครงการไปเนื่องจากคงไม่พร้อมสำหรับการจ่ายดีลระดับ 150 ล้านยูโรเป็นอย่างน้อยแน่นอน ทีนี้การไม่ได้แวร์เนอร์มา เท่ากับว่า ลิเวอร์พูล ก็ต้องไม่เสียสามประสานแนวรุกไป ก็ถือว่าเป็นข้อดีมองตอนนี้การไม่เสียสามประสานไป มันดีกว่าการไม่ได้ แวร์เนอร์มา

โอกาสของ มินามิโนะ

เมื่อไม่มีแวร์เนอร์มา สิ่งที่คล็อปป์จะต้องทำก็คือ การผลักดันนักเตะที่มีอยู่ขึ้นมาแทนที่ ในกรณีที่นักเตะเกมรุกสามประสานบาดเจ็บต้องมีใครสักคนที่ขึ้นมาเล่นแทนในตำแหน่งที่ว่างไป แน่นอนว่าคุณภาพอาจจะไม่เท่าเดิม แต่จะต้องทำให้ได้ใกล้เคียงกับของเดิมให้ได้มากที่สุด มองจากรายชื่อที่มีอยู่ เราเชื่อว่า ทาคูมิ มินามิโนะ น่าจะได้โอกาสก่อน ดิว็อค โอริกี้ ถ้าหากเค้าทำได้จริงน่าจะกดดันตำแหน่งสามประสานแดนหน้าได้มากทีเดียว

ทุ่มซื้อในตำแหน่งอื่น

การไม่ได้ซื้อ ติโม แวร์เนอร์ มองอีกมุมหนึ่งเป็นการเซฟเงินก้อนโตให้กับสโมสรด้วย (คาดว่าอย่างน้อยต้องมีสัก 60 ล้านยูโร) เงินจำนวนนี้พวกเค้าอาจจะแปลงเป็นนักเตะในตำแหน่งอื่นที่ยังขาดอยู่ในระดับตัวสำรอง หรือจะไปหาช้างเผือกในตำแหน่งอื่นมาปั้นรอก็ยังได้เหมือนกัน เห็นไหมว่า วืด แวร์เนอร์ มันก็ไม่ได้แย่สักหน่อย

ดีเอโก้-ฟอร์ลัน

วันนี้ของดิเอโก้ ฟอร์ลันที่พลิกฝันไปอย่างสิ้นเชิง

ดีเอโก้-ฟอร์ลัน

ดีเอโก้-ฟอร์ลัน

วันนี้ของดิเอโก้ ฟอร์ลัน พลิกฝันไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อดาวเตะผู้ล้มเหลวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังผงาดนำสโมสรเล็กๆ อย่างบียาร์รีล มุ่งหน้าไปเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรปในฤดูกาลหน้า

…หัวหอกจากอุรุวัยขับรถไครส์เลอร์แวนของเขาออกจากสนามซ้อมบียาร์รีลอย่างมีความสุข ขณะนี้มีเพียง ซามูแอล เอโต้ ของบาร์ซ่าเพียงคนเดียวเท่านั้นที่หวดประตูในลา ลีกา ได้มากกว่าเขา และทำให้วันชื่นคืนสุขของฟอร์ลันกลับคืนมา แทนที่จะเป็นฝันร้ายแฉกเช่นที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

ประตูที่เขาทำได้ทั้งหมดไม่ได้มาจากจุดโทษ หรือเกมในยุโรป เพราะเฟอร์ลันเคยลงสนามให้ปีศาจแดงมาแล้วไม่กี่นาทีที่บูคาเรสต์เมื่อต้นฤดูกาล แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของจอมถล่มอย่างแท้จริง

นี่คือก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่ของเฟอร์ลันและสโมสรบียารีลอย่างแท้จริง เพราะเมื่อหนึงทศวรรษที่แล้ว สสโมสรแห่งนี้ยังเป็นแค่ทีมระดับสมัครเล่น จากเมืองที่มีผู้คนแค่ 42,000 ชีวิต และก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

สไตล์การทำทีมของบียาร์รีลอยู่ที่การผสมผสานนักแตะรุ่นเก่าเข้ากับดาวดวงใหม่ และดาราที่บาร์ซ่าไม่ต้องการอย่าง ฮวน โรมัน ริเกลเม่ รวมทั้งฟอร์ลัน ก็เข้ามาจุดประกายให้ทีมขึ้นมาท้าทายพื้นที่ยุโรปในฤดูกาลนี้ ต่อเนื่องจากที่เข้าถึงรอบตัดเชือก ยูฟ่า คัพ เมื่อปีก่อน

สำหรับฟอร์ลัน นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลวงบนเส้นทางลูกหนัง เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน เขายังได้ชื่อว่าเป็นผู้ล้มเหลวจากแมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยผลงาน 10 ประตูจาก 62 นัด ไม่คุ้มกับค่าตัว 7.5 ล้านปอนด์ที่สโมสรจ่ายให้อินดิเพนเดียนเต้เมื่อเดือน ม.ค. 2002 แม้แต่น้อย ทว่าวันนี้ เขากลายเป็นดาวยิงที่ร้อนแรงสุดๆ ในลา ลีกา ไปแล้ว…

ลาชิโอ

ลาชิโอกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาในอดีต

ลาชิโอ

ลาชิโอ

   ในปี 1976 คินาญ่าแพ็คกระเป่าหอบข้าวหอบของไปอยู่นิวยอร์คคอสโม่ส์ หนึ่งปีถัดมา ลูซาโน่ เร เซ็ค โคนี่ มิดฟิลด์ของทีมดวงแตกสุดขีดเสียชีวิตเพราะถูกฆาตกรรมปี 1980 หลลายนักเตะของทีมพัวพันกับคดีฉาว “โตโต้- เนโร่” ลาชิโอถูกปรับตกชั้นลงเซเรีย บี และเป็นเวลาราว 10 ปีที่เดียวที่ลาชิโอเที่ยวขึ้นเที่ยวลงระหว่างลีกสูงสุดกับลีกอันดับสองอย่างไม่รู้เบื่อจนกระทั่งหนุ่มใหญ่คนใหม่ย่างเท้าเข้ามา เขามีนามว่า แชร์ดจ้ ครันญ็อตติซึ่งมาเป็นเจ้าของสโมสรในปี 1992 จากจุดนี่เองที่ทำให้ความมั่นใจกลับมาสู่สโมสรอีกครั้ง 8 ปีในฐานะบิ๊กบอสแห่งลาชิโอ พร้อมประสบการณ์ในการเป็นนักธุรกิจเมื่อทองของเขา ครันญ็อตติแปรสภาพลาชิโอมาเป็นหนึ่งสโมสรใหญ่แห่งยุโรปสมบูรณ์แบบ

ปลายทศวรรษที่แล้วของลาชิโอมี สเวน โกรัน อีริคส์สัน เป็นผู้คุมทีมแสดงฝีเท้า กุนซือสวีดิชผู้นี้เข้ามาคุมทีมตั้งแต่ปี 1997 และไม่กี่อึดใจ ตำแหน่งแชมป์โคปป้า อิตาลีปี 1998 ก็ลอยมาก่อนที่จะได้อีกครั้งในปี 2000 ที่ผ่านมา นั่นยังไม่นับถ้วยซูเปอร์โค้ปป้า อิตาเลียนในปี 1998 และ 2000 ถ้วยคัพ   วินเนอร์ส คัพใบส่งท้ายรายการ ในปี 1999 ถ้วยซูเปอร์คัพยุโรปในปีเดียวกัน และแน่นอนที่สุดสคูเด๊ตโต้ใบงานเมื่อพฤษภาคมปีกลายนั่นเองที่ทำให้กุนซือกลายเป้นเทรนเนอร์ผู้มากความสำเร็จ

และวันนี้ สเวน โกรัน อีริคส์สัน ก็กลายเป็นอดีตของที่นั่นไปเรียบร้อยเมื่อเขาข้ามห้วยขึ้นไปคุมทีมชาติอังกฤษ โดยที่ลาชิโอต้องเรียก ดิโน่ ซอฟฟ์ ลงมาขัดตาทัพ รับงานแทนพร้อมกับที่ความหวังในการรักษาแชมป์กัลโซ่ก็เตลิดเปิดเปิงไปไกลแล้ว

เปโดร โรดิเกรช

เปโดร โรดิเกรช คือนักเตะที่อาร์เซน่อลควรดึงตัวมาเสริมทีม เพื่อเพิ่มศักยภาพในแนวรุกให้มากขึ้น!

เปโดร โรดิเกรช

เปโดร โรดิเกรช

หากพูดถึงทีมอาร์เซน่อลของกุนซือ อาร์เซน เวนเกอร์กับผลงานในฤดูกาลนี้ที่ผ่านมานั้น ต้องบอกว่า ดูเหมือนอาร์เซน่อลของอาร์เซน เวนเกอร์นั้น จะเป็นทีมที่ทำผลงานในช่วงหลังๆได้ดีเลยทีเดียว เพราะจะเห็นได้ว่า ตั้งแต่ผ่านเข้าสู่ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังนั้น อาร์เซน่อลของอาร์เวน เวนเกอร์ก็โชว์ฟอร์มดีอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว ซึ่งน่าเสียดายไม่น้อยที่ในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกนั้น พวกเขากลับออกสตาร์ทด้วยผลงานที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็เลยทำให้ฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อลของเวนเกอร์นั้น ก็เลยยังคงทำผลงานบนเส้นทางลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นั่นเอง

ดังนั้นสำหรับในบทความนี้ เลยจะมาพูดถึงทีมอาร์เซน่อลของกุนซือ อาร์เซน เวนเกอร์ เกี่ยวกับตลาดซื้อขายรอบหน้านี้กันหน่อย เพราะคิดว่า หากฤดูกาลหน้า อาร์เซน เวนเกอร์ต้องการที่จะพาอาร์เซน่อลทำผลงานให้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมานั้น สิ่งที่เขาจะต้องทำหลังจากนี้ก็คือ ต้องเสริมทีมเพิ่มอีก แม้ว่าก่อนหน้านี้เวนเกอร์จะออกมาบอกว่า ขุมกำลังของทีมที่มีนั้น ค่อนข้างลงตัวและสมบูรณ์แบบแล้วก็ตาม แต่ทว่าสำหรับโดยส่วนตัวยังมองว่า อาร์เซน่อลยังคงต้องเสริมทีมเพิ่มอยู่ดี และคิดว่า หนึ่งในนักเตะที่เวนเกอร์ควรดึงตัวมาเสริมทีม และถือว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับอาร์เซน่อลมากๆ นั่นก็คือ เจ้าเปโดร โรดิเกรช นั่นเอง

สำหรับเหตุผลว่าทำไม ถึงบอกว่า อาร์เซน่อลควรดึวตัวเจ้าเปโดร โรดิเกรช มาเสริมทีมให้ได้สำหรับตลาดซื้อขายรอบหน้านี้ นั่นก็เพราะมองว่า อาร์เซน่อลควรเพิ่มความดุดันในส่วนของแนวรุกให้มากขึ้นอีก เพราะจากเท่าที่ติดตามดูฟอร์มในฤดูกาลนี้ที่ผ่านมานั้น ดูเหมือนสิ่งที่อาร์เซน่อลยังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร นั่นก็คือในส่วนของแนวรุกนั่นเอง เพราะหลายๆครั้ง เหมือนแนวรุกของอาร์เซน่อลที่มีนั้น ยังขาดความแน่นอนในการจบสกอร์อยู่ ก็เลยทำให้คิดว่า อาร์เซน่อลควรดึงตัวเจ้าเปโดร โรดิเกรช มาเสริมทีม เพราะว่าสำหรับเจ้า เปโดร โรดิเกรช นั้นเป็นนักเตะที่โดดเด่นในเรื่องการจบสกอร์คนนึงเลย อีกทั้งเป็นนักเตะที่เล่นได้ทั้งปีกและกองหน้าอีกด้วย เลยมองว่า เขาคนนี้น่าจะช่วยทำให้แนวรุกของอาร์เซน่อลนั้น ดูดุดันและสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และที่สำคัญเลยก็คือ สไตล์การเล่นของเปโดร โรดิเกรช นั้นน่าจะเข้ากันได้ดีกับระบบการเล่นของอาร์เซน่อลด้วย เพราะเขาเล่นกับบาร์เซโลน่าที่ระบบการเล่นเน้นต่อบอลเป็นหลัก เช่นเดียวกับอาร์เซน่อลอยู่แล้ว เลยเชื่อว่า ถ้าได้เขามา อาร์เซน่อลฤดูกาลหน้าจะทำผลงานได้ดีขึ้นแน่นอน .

เลเวอร์คูเซ่น แม้จะตกรอบไป แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว จะมองข้ามพวกเขาไม่ได้เด็ดขาด!

เลเวอร์คูเซ่น

เลเวอร์คูเซ่น

ในที่สุดก็จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยซักที สำหรับศึกการแข่งขัน ศึกฟุตบอลรายการยุโรปอย่างยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกรอบ16ทีมสุดท้ายนัดที่สอง ดังนั้นสำหรับในบทความนี้เลยจะขอเก็บตกควันหลงของผลการแข่งขันในรอบนี้กันหน่อย และสำหรับคู่ที่จะพูดถึงกันในบทความนี้ก็คือ คู่ของแอตมาดริดกับทีมเลเวอร์คูเซ่นนั่นเอง ซึ่งสุดท้ายแล้วสำหรับผลของคู่นี้ก็คือ กลายเป็นว่าทางยอดทีมจากลีกสเปนอย่าง แอตมาดริดนั้นเป็นฝ่ายผ่านเข้ารอบต่อไปได้ แต่ทว่าสิ่งที่น่าสนใจก็คือ ดูเหมือนกว่าที่แอตมาดริดจะผ่านเข้ารอบต่อไปได้นั้น จะลำบากไม่น้อยเลยทีเดียวนั่นเอง

โดยทั้งนี้สำหรับผลการแข่งขันของคู่นี้ที่ออกมานั้น ที่สุดท้ายกลายเป็นว่าทางด้านทีมแอตมาดริดนั้นเป็นฝ่ายเข้ารอบต่อไปได้ ถือว่าเป็นผลงานการแข่งขันที่เป็นไปตามคาดหวังเอาไว้ เพราะในตอนแรกนั้นเสียงส่วนใหญ่ก็คาดการณ์กันว่า สำหรับผลของคู่นี้น่าจะเป็นทางด้านแอตมาดริดของกุนซือ ดิเอโก้ ซิโมเน่ที่เหนือกว่าในเรื่องประสบการณ์ในรายการนี้และบวกกับขุมกำลังที่เหนือกว่านิดๆ เป็นฝ่ายเข้ารอบไปได้ และสุดท้ายผลการแข่งขันก็ได้เป็นไปตามที่คาดคิดเอาไว้ในตอนแรกจริงๆ แต่ก็มีผิดพลาดนิดหน่อยเหมือนกัน นั่นก็เพราะว่า กว่าที่แอตมาดริดจะผ่านเข้ารอบต่อไปได้นั้น พวกเขาจะต้องไปดวลกันถึงการต่อเวลาพิเศษและยาวไปถึงการตัดสินด้วยการดวลจุดโทษนั่นเอง

และเพราะการที่ผลการแข่งขันของคู่นี้จบลงในเวลาด้วยการเสมอ1-1 จนทำให้ต่อเวลาพิเศษและยาวไปถึงการดวลจุดโทษนี้นั่นเอง ทำให้เกมนี้มีสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย นั่นก็เพราะว่า สำหรับผลการแข่งขันของคู่นี้นั้น ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า สำหรับรายการนี้นั้น หลายๆทีมจะมองข้ามหรือประมาททางด้านทีมเลเวอร์คูเซ่นไม่ได้เด็ดขาดนั่นเอง เพราะอย่างที่กล่าวเอาไว้ข้างต้น ว่าก่อนเกมนี้จะเริ่มขึ้นนั้น มุมมองก่อนเกมหลายๆคนต่างก็มองว่า ผลการแข่งขันของคู่นี้น่าจะเป็นทางแอตมาดริดที่สามารถผ่านเข้ารอบต่อไปได้แบบไม่ยากเย็น เพราะขุมกำลังของพวกเขานั้น ค่อนข้างเหนือกว่า แถมประสบการณ์ในรายการนี้แอตมาดริดก็ดีกว่าด้วย แต่ทว่าผลงานที่ออกมานั้น กลับผิดคาดไปพอสมควร เพราะกลายเป็นว่าทางด้านเลเวอร์คูเซ่นนั้น สู้กับทางด้านแอตมาดริดได้อย่างสูสีเลยทีเดียว จนต้องไปวัดกันที่การดวลจุดโทษในที่สุด ซึ่งเพียงแค่นี้ ก็น่าจะพอเป็นตัวคำตอบที่พอจะยืนยันได้แล้วว่า เลเวอร์คูเซ่น นั้นเป็นอีกหนึ่งทีมที่ไม่ธรรมดาจริงๆ และจะมองข้ามเหล่าทีมจากลีกเยอรมันไม่ได้เด็ดขาดอีกด้วยสำหรับรายการนี้นั่นเอง.

ปีเตอร์ เช็ก กับค่าตัว20ล้านปอนด์ แม้อาจจะดูแพงแต่ก็คุ้มที่จะลงทุนคว้าตัวมาร่วมทีม!

ปีเตอร์ เช็ก

ปีเตอร์ เช็ก

พอยิ่งเข้าใกล้ช่วงท้ายฤดูกาลเข้าไปทุกที ดูเหมือนว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมานั้นเริ่มมีกระแสข่าวเกี่ยวกับตลาดซื้อขายนักเตะของฤดูกาลหน้าทยอยกันออกมาให้เห็นอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว และต้องบอกว่า ดูเหมือนจะมีหลายกระแสข่าวเหมือนกันที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือกระแสข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ของนายประตูตัวเก่งของเชลซีอีกคนอย่าง ปีเตอร์ เช็กนั่นเอง ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่า สำหรับในตอนนี้อนาคตของปีเตอร์ เช็กกับเชลซีนั้นกำลังไม่แน่นอนเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่ที่เชลซีไปดึงตัวนายประตูดาวรุ่งอีกคนอย่าง ธิโบต์ คูร์ตัวส์กลับมาช่วยทีม ก็เลยส่งผลให้ปีเตอร์ เช็กกลายเป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น เลยทำให้มีข่าวว่า เขาน่าจะย้ายออกจากเชลซีหลังจบฤดูกาลนี้นั่นเอง

และดูเหมือนว่า หลังจากที่มีข่าวออกไปว่าทางปีเตอร์ เช็กนั้น อาจจะต้องการย้ายออกจากเชลซีหลังจบฤดูกาลนี้ ก็เลยทำให้มีหลายทีมดังเลยทีเดียวที่กำลังให้ความสนใจอยากได้ตัวเจ้า นายประตูคนนี้ไปร่วมทีมด้วย ก็เลยทำให้ทางเชลซีนั้นต้องออกมาประกาศราคาขายปีเตอร์ เช็กทันที ว่าหากทีมใดที่สนใจอยากได้ตัวเขาไปร่วมทีมจะต้องจ่ายถึง20ล้านปอนด์เลยทีเดียว และแน่นอนว่าทันทีที่ได้ทราบถึงจำนวนเงินที่ต้องจ่ายให้กับเชลซี หากต้องการอยากได้ปีเตอร์ เช็กไปร่วมทีมที่ราคาถึง20ล้านปอนด์นั้น ก็ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากมายเลยทีเดียว เพราะดูเหมือนว่า สำหรับราคาดังกล่าวนี้มันเป็นราคาที่แพงเกินไปนั่นเอง

แต่อย่างไรก็ดี สำหรับโดยส่วนตัวแล้ว สำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้นั้น กลับมองว่า แม้ไม่อาจปฏิเสธได้จริงๆว่า สำหรับราคา20ล้านปอนด์เพื่อเป็นค่าตัวของนายประตูที่อายุเยอะแล้วนั้น ถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างแพงแน่นอน แต่ถึงกระนั้นก็ต้องบอกว่า ในขณะเดียวกันนั้น ราคาดังกล่าวก็คุ้มค่าที่จะลงทุนเหมือนกัน เพราะแม้ว่า ปีเตอร์ เช็กนั้นอาจจะอายุเยอะแล้วก็ตาม แต่ทว่าสำหรับในตำแหน่งนายประตูนั้น เป็นตำแหน่งที่เล่นได้หลายปีเลย และที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ ฝีมือการเซฟของปีเตอร์ เช็กนั้น ก็ใช่ว่าจะอยู่ช่วยฟอร์มตกซะหน่อย เพียงแต่มูริญโญ่เลือกให้โอกาสคูร์ตัวส์มากกกว่าเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นปีเตอร์ เช็กเองก็ได้รับโอกาสลงสนามบ้างเหมือนกัน และจะเห็นได้ว่า จากผลงานที่ผ่านมาของปีเตอร์ เช็กในฤดูกาลนี้นั้น เขายังคงโชว์ให้เห็นถึงความเยี่ยมยอดเหมือนเดิม ดังนั้นเลยมองว่า แม้สำหรับราคา20ล้านปอนด์เพื่อเป็นค่าตัวของปีเตอร์ เช็กนั้นอาจจะดูแพงเกินไปก็จริง แต่เชื่อว่ามันก็คุ้มค่าที่จะลงทุนด้วย เพราะหากได้เขาคนนี้ไปร่วมทีม บอกได้เลยว่า โอกาสที่ทีมจะเสียประตูในฤดูกาลหน้านั้น ลดน้อยลงกว่าเดิมแน่นอน.