เอาอกเอาใจคอบอล sbo อีกแล้ว กับโปรโมชั่นจุใจนักเดิมพัน

ฟีฟ่ากำลังอยู่ในกระบวนการทบทวนและพิจารณาปรับปรุงระบบการย้ายทีมทั่วโลก หลังจากที่ศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรปตัดสินว่ากฎบางข้อของฟีฟ่าขัดกับกฎหมายของสหภาพยุโรป คดีนี้เกิดขึ้นจากการที่ ลาสซานา ดิยาร์รา (Lassana Diarra) อดีตนักเตะชื่อดังที่เคยเล่นให้กับเชลซี (Chelsea) และอาร์เซนอล (Arsenal) ได้ฟ้องฟีฟ่าเรียกค่าเสียหาย เนื่องจากการปฏิเสธที่จะให้ใบรับรองการย้ายทีมระหว่างประเทศ (ITC) สำหรับการย้ายไปยังสโมสรชาร์เลอรัว (Charleroi) ในเบลเยียมเมื่อปี 2015

กฎที่ถูกตั้งข้อสังเกตและคดีความของดิยาร์รา

กฎที่ฟีฟ่าถูกตั้งข้อสังเกต คือกฎที่ระบุว่าเมื่อมีการเซ็นสัญญานักเตะที่เป็นฟรีเอเย่นต์ สโมสรใหม่จะต้องร่วมกันรับผิดชอบจ่ายค่าชดเชยให้กับสโมสรเดิม หากการยกเลิกสัญญากับนักเตะเกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุอันสมควร ลาสซานา ดิยาร์รา โต้แย้งว่ากฎเหล่านี้เป็นการจำกัดเสรีภาพในการย้ายทีมของนักฟุตบอลมืออาชีพและเป็นการขัดขวางเสรีภาพในการเคลื่อนย้ายแรงงานซึ่งขัดกับกฎหมายการแข่งขันในสหภาพยุโรป

ในคดีนี้ ศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรปได้ตัดสินให้ฝ่ายดิยาร์ราเป็นผู้ชนะ โดยชี้ว่ากฎของฟีฟ่าที่ปฏิเสธการออกใบรับรองการย้ายทีมเป็นการจำกัดเสรีภาพและขัดขวางโอกาสในการทำงานของนักเตะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับหลักการเสรีภาพในการเคลื่อนย้ายของกฎหมายในยุโรป

ฟีฟ่าเตรียมเปิดการสนทนาระดับโลก

หลังจากคำตัดสินนี้ ฟีฟ่าจึงประกาศว่าจะเปิดการสนทนาระดับโลกกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในวงการฟุตบอล ซึ่งรวมถึงนักเตะ สโมสร และองค์กรกีฬาต่าง ๆ เพื่อทบทวนและปรับปรุงกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการย้ายทีม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและกฎหมายในแต่ละภูมิภาค ฟีฟ่ามองว่าการตัดสินคดีดิยาร์ราเป็นโอกาสสำคัญในการปรับปรุงกรอบกฎหมายให้ทันสมัยมากขึ้น

โอกาสในการพัฒนาระบบการย้ายทีมของฟีฟ่า

เอมิลิโอ การ์เซีย ซิลเวโร (Emilio Garcia Silvero) เจ้าหน้าที่กฎหมายและความเป็นธรรมของฟีฟ่ากล่าวว่า “ฟีฟ่ามองว่าการตัดสินคดีดิยาร์ราเป็นโอกาสในการปรับปรุงกรอบกฎหมายให้ทันสมัยขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของฟีฟ่าที่กำหนดมาตั้งแต่ปี 2016” การพิจารณาปรับปรุงระบบนี้อาจจะรวมถึงการปรับกฎการย้ายทีมเพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายได้เสรีมากขึ้น พร้อมทั้งรักษาความเป็นธรรมสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

การยืนยันความชอบธรรมของกฎหลักในระบบการย้ายทีม

แม้ว่าศาลจะตัดสินให้ฝ่ายดิยาร์ราเป็นผู้ชนะในคดีนี้ แต่โฆษกของฟีฟ่าก็ได้กล่าวว่าความชอบด้วยกฎหมายของหลักการสำคัญในระบบการย้ายทีมยังคงได้รับการยืนยันอีกครั้ง ฟีฟ่าจึงยังคงเชื่อมั่นในระบบปัจจุบัน แต่ยอมรับว่ามีบางส่วนที่ต้องปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายและข้อกำหนดที่ทันสมัยมากขึ้น

ทิศทางในอนาคตสำหรับวงการฟุตบอล

การทบทวนและปรับปรุงระบบการย้ายทีมของฟีฟ่าถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการพัฒนาวงการฟุตบอลในอนาคต การเปิดโอกาสให้มีการปรึกษาหารือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะช่วยให้กฎเกณฑ์ใหม่ที่ออกมาเป็นไปอย่างเหมาะสมและครอบคลุมทุกประเด็น ฟีฟ่าหวังว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะสามารถสร้างความเป็นธรรมและเสรีภาพให้กับนักฟุตบอลทั่วโลก รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่นในกระบวนการย้ายทีม

หินิำะ เป็นเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกและเป็นที่นิยมในหมู่นักเดิมพัน ระบบการฝาก-ถอนเงินของ หินิำะ รวดเร็วและมีความปลอดภัย ทำให้นักเดิมพันมั่นใจได้

เอซี มิลาน (AC MILAN) ยักษ์ใหญ่แดนมักกะโรนี กำลังจับจ้องให้ความสนใจในตัวของ วิคตอร์ ลินเดอร์เลิฟ (Victor Lindelof) ปราการหลังชาวสวีดิช ของ แมนฯ ยูไนเต็ด (Manchester United) ที่ตอนนี้ดูท่าจะไม่มีอนาคตกับทีม ปิศาจแดง ซะแล้วหลังไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามเท่าที่ควร มีรายงานจากสื่อทาง อิตาลี ออกมาว่า เอซี มิลาน (AC MILAN) ทีมดังจาก กัลโช่ ซีรีย์อา กำลังให้ความสนใจแล กำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะดึงตัว วิคตอร์ ลินเดอร์เลิฟ (Victor Lindelof) ปราการหลังของ แมนฯ ยูไนเต็ด (Manchester United) มาร่วมทีม โดยสัญญาของ เขากับทีมปิศาจแดง กำลังจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์นี้ แม้ว่าเจ้าตัวจะเพิ่งต่อสัญญา ออกไปเมื่อตอนปี 2023 แต่มาถึงตรงนี้ ไม่มีวี่แววว่าจะได้สัญญาใหม่แต่อย่างใด

 

การมาของ มัตไธจ์ เดอ ลิกต์ ทำให้ตำแหน่งของ วิคตอร์ ลิเดอร์เลิฟ สั่นคลอนและไม่ได้รับโอกาสลงสนาม 

 

ด้วยการเสริมทัพช่วงซัมเมอร์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด (Manchester United) มัตไธจ์ เดอ ลิกต์ (Matthijs de Ligt) คือกองหลังที่ถูกดึงมาร่วมทีม และได้รับโอกาสลงสนามกับ แมนฯ ยูไนเต็ด (Manchester United) อย่างต่อเนื่องกลับกัน วิคตอร์ ลินเดอร์เลิฟ (Victor Lindelof) กลับกลายเป็นตัวเลือกอันดับหลังๆ ของตำแหน่งนี้ไปเสียแล้ว แน่นอนว่าสัญญาของเขากับทีมจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์นี้แล้ว นั่นทำให้ เอซี มิลาน ให้ความสนใจเป็นอย่างมากที่จะดึงตัวเขาไปร่วมทัพ ส่วนหนึ่งมีการเปิดเผยมาด้วยว่า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (Zlatan Ibrahimovic) ที่ทำงานเป็นหนึ่งในทีมบริหารของ เอซี มิลาน (AC MILAN) เป็นคนจิ้มชื่อของ วิคตอร์ ลินเดอร์เลิฟ (Victor Lindelof) ต้องการที่จะดึงมาร่วมงานกันอีกครั้งหลังเคยร่วมเล่นกันที่ แมนฯ ยูไนเต็ด (Manchester United) และทีมชาติ สวีเดน ไม่ใช่แค่ เอซี มิลาน (AC MILAN)  เท่านั้น ทางคู่แข่งสำคัญอย่าง อินเตอร์ มิลาน (Inter Milan) ก็แสดงความสนใจในตัวของ ปราการหลังชาว สวีเดนผู้นี้เช่นกัน หากใครอยากได้เว็บดีๆ ไว้ลองใช้งานลองเข้าไป สมัคร sbobet ได้เลยใช้ง่ายสะดวกเล่นได้ทุกที่ สมัคร sbobet พร้อมลุ้นรับโปรโมชั่นต่างๆ มากมาย การันตีได้ด้วยประสบการณ์ที่มีมาอย่างยาวนาน

 

แมนฯ ยูไนเต็ด ยังโอเคให้ เทน ฮาก ทำงานต่อ หลังมีการประชุมบอร์ดบริหารกันที่ลอนดอน ถกกันอย่างตึงถึง 6 ชั่วโมง

 

เอริค เทน ฮาก (Erik ten Hag) อีกหนึ่งต้นสายปลายเหตุที่ทำให้ วิคตอร์ ลินเดอร์เลิฟ (Victor Lindelof) ไม่ได้ลงสนามเลยในเวลานี้ ที่ผ่านมาอนาคตของเขาอยู่บนเส้นด้าย จ่อจะถูกปลดในเร็ววันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังมีข่าวการประชุมบอร์ด บริหารของ สโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด (Manchester United) ที่ลอนดอน เซอร์ จิม แร็ตคลิฟฟ์ (Sir Jim Ratcliffe) กับ โจเอล เกลเซอร์ (Joel Glazer) ก็เข้าร่วม ประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง หนึ่งในหัวข้อที่คาดกันว่าจะนำเข้าสู่การประชุม แน่นอนว่าต้องมีเรื่องของ อนาคตของผู้จัดการทีม อย่าง เอริค เทน ฮาก (Erik ten Hag) อยู่ด้วยแต่หลังจากที่ใช้เวลาประชุมกันนานถึง 6 ชั่วโมง ก็ยังไม่มีประกาศใดๆ ออกมาจากสโมสร ทำให้คาดการณ์กันได้ว่า เอริค เทน ฮาก(Erik ten Hag)  น่าจะได้นั่งเก้าอี้นี้ต่อไป อีกสักระยะ ยังคงไม่ถูกปลดในช่วงเวลานี้แน่นอน

เรื่องทำลายสถิติ นี่ไว้ใจเขาได้เลยจริงๆ สำหรับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) ที่ล่าสุด ยิงประตูได้ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เอาชนะ โบโลญญ่า (Bologna) ไปได้ 2-0 ที่แอนฟิลด์ จากประตูนี้นี่เองที่ทำให้เขานั้นทำลายสถิติ นักเตะแอฟริกันที่ประตูใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มากที่สุดแซงหน้า ดิดิเยร์ ดร็อกบา (Didier Drogba) ไปเรียบร้อยแล้ว โดยประตูที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) ทำได้เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาถือเป็นประตูที่ 45 ในรายการนี้ ส่วน ดิดิเยร์ ดร็อกบา (Didier Drogba) ทำไว้ที่ 44 ประตู ส่วนอันดับที่สามก็คือ ซามูเอล เอโต้ (Samuel Eto’o) 30 ประตู 

 

นอกจากจะทำลายสถิติ นักเตะแอฟริกันที่ยิงประตูมากที่สุดในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แล้ว โม  ซาลาห์ ยังกลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ ของ ลิเวอร์พูล ที่ยิงประตูในบ้าน 5 นัดติดของรายการนี้

 

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) ถือเป็นนักเตะลิเวอร์พูล (Liverpool) คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ยิงประตูในบ้านได้ 5 นัดติดต่อกันจากการลงเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยในเกมที่ ลิเวอร์พูล (Liverpool) เปิดแอนฟิลด์ เอาชนะ โบโลญญ่า (Bologna) ทีมดังจากแดนมักกะโรนีไปได้ 2-0 นั้น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) ทำได้ 1 ประตุ กับอีก 1 แอสซิสต์ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม จาก 1 ประตูที่เขาทำได้ในเกมนี้นั้น ทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ที่ยิงประตูในบ้าน ได้ 5 นัดติดต่อกันในรายการนี้  และ ลูกแอสซิสต์ที่เขาส่งให้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (Alexis Mac Allister) ก็ทำให้ แม็คก้า สามารถทำประตูแรกในการลงเล่น รายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จอีกด้วย ก่อนเริ่มเกมราคาใน sbobet มือถือ777 นั้น ลิเวอร์พูล (Liverpool) ต่อค่อนข้างแรง ถึง 2 ลูก ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดีมาอย่างต่อเนื่องจึงไม่แปลกเลยที่ sbobet มือถือ777 จะออกราคามาเช่นนั้น เมื่อเกมเริ่มก็เป็นไปอย่างนั้นจริงๆ หงส์แดง ไล่บดบี้ขยี้ใส่ จนได้ประตูขึ้นนำในที่สุด แต่ทว่า ทาง โบโลญญ่า (Bologna) ก็ทำให้ทาง ลิเวอร์พูล (Liverpool) ต้องพบกับความยากลำบากเช่นกัน อลิสซอน เบ็คเกอร์ (Alisson Becker) ช่วยเซฟไว้ได้หลายจังหวะจนทำให้ ลิเวอร์พูล (Liverpool) นั้นยังคงครองสกอร์นำอยู่ได้ จนมาได้ประตูที่ 2 ในที่สุด

 

อลิสซอน พูดถึง ซาลาห์ ว่า ลิเวอร์พูล นั้นโชคดีมากๆ ที่ดาวเตะทีมชาติ อิยิปต์ อยู่ในทีม เพราะเขาสามารถที่จะเปลี่ยนเกมได้เสมอ

 

อลิสซอน เบ็คเกอร์  (Alisson Becker) ที่ถือได้ว่ามีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในเกมนี้ เขาเซฟช่วยทีมไว้หลายต่อหลายครั้งก่อนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) จะมายิงประตูที่ 2 คลายความกดดันให้ทีมได้สำเร็จ ทั้งนี้ทาง อลิสซอน เบ็คเกอร์ (Alisson Becker) ได้ออกมายกย่อง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) เพื่อนร่วมทีมของเขาด้วยว่า ตัวของ ซาลาห์ นั้นมีส่วนช่วยทีมได้เยอะมากๆ แม้ว่าบางครั้งจะดูเหมือนว่าเขานั้นหายไปจากเกม แต่ด้วยคุณภาพที่ยอดเยี่ยมของเขา เขาจะโผล่มาด้วยการสัมผัสบอลที่สมบูรณ์แบบ ก่อนจะยิงประตูเข้าไปได้ พร้อมย้ำด้วยว่า ลิเวอร์พูล (Liverpool) นั้นโชคดีจริงๆ ที่มี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) อยู่ในทีม ผู้รักษาประตูชาวบราซิล ยืนยันและยกย่อง เขาด้วยหัวใจ

เลสเตอร์รู้สึก ‘ถูกทรยศ’ จากประตู ‘ล้ำหน้า’ – คูเปอร์

เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังเผชิญกับความไม่พอใจอย่างมากหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกมเสมอ คริสตัล พาเลซ 2-2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้จัดการทีม สตีฟ คูเปอร์ (Steve Cooper) ได้ออกมาแสดงความผิดหวังอย่างมากต่อการตัดสินของผู้ตัดสินที่ให้ประตูแก่ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นประตูที่ล้ำหน้า

คูเปอร์ (Cooper) เปิดเผยว่าทางสโมสรได้เข้าพบกับทาง พรีเมียร์ลีก เพื่อหารือเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเรียกว่า “ข้อผิดพลาดของมนุษย์อันเลวร้าย” ซึ่งส่งผลให้ คริสตัล พาเลซ ได้ประตูที่น่าสงสัย ในเกมดังกล่าว เลสเตอร์ ซิตี้ นำไปก่อน 2-0 จากประตูของ สเตฟี่ มาวิดิดี้ (Stephy Mavididi) แต่ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า (Jean-Philippe Mateta) ทำสองประตูให้ทีมเจ้าบ้านตามตีเสมอได้สำเร็จ

ประตูแรกของ มาเตต้า (Mateta) เป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง เมื่อผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดีโอ (VAR) กลับคำตัดสินเดิมที่ให้เป็นลูกล้ำหน้า ทั้งที่ภาพช้าดูเหมือนว่ากองหน้าชาวฝรั่งเศสอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าอย่างชัดเจน คูเปอร์ (Cooper) ยืนยันว่าทางสโมสรได้แสดงหลักฐานให้ พรีเมียร์ลีก เห็นแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำขอโทษแต่อย่างใด

“เรื่องนี้ผ่านไปแล้ว แต่มันเป็นข้อผิดพลาดของมนุษย์ที่ร้ายแรงมาก” คูเปอร์ (Cooper) กล่าว “เราได้เห็นภาพที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาล้ำหน้า แต่พวกเขาหยุดภาพผิดจังหวะ ทุกภาพที่เห็นเป็นภาพที่ไม่ถูกต้อง” และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด ข่าวพรีเมียร์ลีก สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

อย่างไรก็ตาม องค์กรผู้ตัดสิน Professional Game Match Officials Limited (PGMOL) ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของ คูเปอร์ (Cooper) โดยยืนยันว่าไม่มีข้อผิดพลาดของมนุษย์หรือความผิดพลาดใด ๆ เกิดขึ้น พวกเขาได้ชี้แจงประเด็นนี้ในการประชุมกับ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา PGMOL ยืนยันว่ากระบวนการตัดสินทั้งหมดเป็นไปตามมาตรฐานปกติ เช่นเดียวกับที่ใช้ในเกม พรีเมียร์ลีก อื่น ๆ

สถานการณ์นี้ยิ่งทำให้ เลสเตอร์ ซิตี้ รู้สึกกดดันมากขึ้น เนื่องจากทีมยังไม่ชนะในสี่เกมแรกหลังจากเลื่อนชั้นกลับสู่ พรีเมียร์ลีก พวกเขามีคิวเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เอฟเวอร์ตัน ที่ยังไม่มีแต้มในวันเสาร์นี้

คูเปอร์ (Cooper) กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรามีข้อผิดพลาดใหญ่หลวงเกิดขึ้นกับเรา ข้อผิดพลาดแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น และนั่นคือเหตุผลที่เรากำลังเปลี่ยนไปใช้ระบบกึ่งอัตโนมัติ เรารู้สึกถูกทรยศมาก เราจำเป็นต้องยืนหยัดเพื่อสโมสรและบอก พรีเมียร์ลีก ว่าเราคิดอย่างไร”

แม้จะมีการโต้เถียงกันอย่างหนัก แต่คณะกรรมการอิสระพิจารณาเหตุการณ์สำคัญของการแข่งขัน ซึ่งทำหน้าที่ทบทวนการตัดสินของผู้ตัดสินใน พรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ ได้สรุปว่าการตัดสินให้ประตูนั้นถูกต้องแล้ว พวกเขาอธิบายว่า “เป็นการตัดสินที่เฉียดฉิวมากในเวลาจริง โดย มาเตต้า (Mateta) ถูกเล่นให้ไม่ล้ำหน้าด้วยขาที่ยื่นออกมา และมีการใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้อง”

เหตุการณ์นี้ได้จุดประเด็นการถกเถียงเกี่ยวกับความแม่นยำของการใช้เทคโนโลยี VAR ในวงการฟุตบอล อังกฤษ หลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการปรับปรุงระบบเพื่อลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการตีความของมนุษย์ ในขณะที่บางคนยังคงสนับสนุนการใช้ระบบปัจจุบัน โดยอ้างว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาความยุติธรรมในเกม

ไม่ว่าผลการตัดสินจะเป็นอย่างไร เหตุการณ์นี้ได้สร้างความกดดันอย่างมากให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในการพยายามรักษาตำแหน่งใน พรีเมียร์ลีก หลังจากเพิ่งเลื่อนชั้นกลับมา พวกเขาจำเป็นต้องปรับปรุงฟอร์มการเล่นอย่างเร่งด่วนเพื่อหลีกเลี่ยงการตกชั้นอีกครั้ง เกมต่อไปกับ เอฟเวอร์ตัน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของทีมในฤดูกาลนี้

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ เลสเตอร์ ซิตี้  มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด ข่าวพรีเมียร์ลีก สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

 

โรนัลโด้วิจารณ์เทน ฮาก และกล่าวว่าแมนฯ ยูไนเต็ดต้อง “สร้างทุกอย่างใหม่”

คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo) อดีตดาวยิงระดับตำนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ เอริค เทน ฮาก (Erik ten Hag) ผู้จัดการทีมคนปัจจุบันของ “ปีศาจแดง” อย่างรุนแรง พร้อมทั้งเรียกร้องให้สโมสรทำการ “สร้างทุกอย่างใหม่” เพื่อกลับมาแข่งขันชิงถ้วยรางวัลใหญ่ในวงการฟุตบอลอีกครั้ง

โรนัลโด (Ronaldo) ได้ให้สัมภาษณ์กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ (Rio Ferdinand) อดีตเพื่อนร่วมทีมในพอดแคสต์ “Rio Ferdinand Presents” โดยเขาได้แสดงความไม่พอใจต่อทัศนคติของ เทน ฮาก (Ten Hag) ที่กล่าวว่าทีมไม่สามารถแข่งขันเพื่อชนะ พรีเมียร์ลีก และ แชมเปียนส์ลีก ได้ โรนัลโด (Ronaldo) มองว่าในฐานะผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ควรพูดเช่นนั้น แต่ควรแสดงความมุ่งมั่นที่จะพยายามและสู้เพื่อความสำเร็จ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด ทางเข้าsbobet สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

ดาวยิงชาว โปรตุเกส ยังได้กล่าวถึงความรักที่มีต่อสโมสรและความทรงจำในอดีต โดยเขาเคยค้าแข้งให้กับ ยูไนเต็ด สองช่วง ในช่วงแรกระหว่างปี 2003-2009 เขาประสบความสำเร็จอย่างมาก คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 3 สมัย แชมเปียนส์ลีก 1 สมัย ลีกคัพ 2 สมัย และ เอฟเอ คัพ 1 สมัย ก่อนย้ายไป เรอัล มาดริด ในช่วงที่สองเขากลับมาร่วมทีมในปี 2021 แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

โรนัลโด (Ronaldo) ได้วิจารณ์ว่าสโมสรไม่มีการพัฒนานับตั้งแต่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (Sir Alex Ferguson) เกษียณในปี 2013 ทีมไม่สามารถคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้อีกเลยนับแต่นั้น อย่างไรก็ตาม เขาแสดงความหวังว่าการเข้ามาของ เซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ (Sir Jim Ratcliffe) ที่ซื้อหุ้น 25% ของสโมสรและนำทีม อิเนออส (Ineos) เข้ามาดูแลการดำเนินงานด้านฟุตบอล จะช่วยฟื้นฟูสโมสรได้

ดาวยิงวัย 39 ปี เน้นย้ำว่าสโมสรต้องการเวลาในการสร้างทุกอย่างใหม่ ทั้งโครงสร้าง โครงสร้างพื้นฐาน และองค์ประกอบอื่นๆ เขามองว่านี่เป็นทางเดียวที่จะทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาแข่งขันได้อีกครั้ง โรนัลโด (Ronaldo) แสดงความเชื่อมั่นว่าอนาคตของสโมสรจะสดใส แต่ก็เตือนว่าความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่พรสวรรค์เท่านั้น แต่ต้องสร้างทุกอย่างใหม่ตั้งแต่พื้นฐาน

นอกจากนี้ โรนัลโด (Ronaldo) ยังได้ชื่นชมการตัดสินใจของสโมสรที่รับ รุด ฟาน นิสเตลรอย (Ruud van Nistelrooy) อดีตกองหน้าระดับตำนานเข้ามาร่วมทีมงานของ เทน ฮาก (Ten Hag) เขามองว่าการมีคนที่เข้าใจวัฒนธรรมของสโมสรและรู้วิธีจัดการกับนักเตะจะเป็นประโยชน์อย่างมาก

โรนัลโด (Ronaldo) ยังเสนอแนะให้สโมสรรับฟังคำแนะนำจากอดีตนักเตะที่ประสบความสำเร็จกับทีม เช่น ริโอ เฟอร์ดินานด์ (Rio Ferdinand) รอย คีน (Roy Keane) พอล สโคลส์ (Paul Scholes) แกรี่ เนวิลล์ (Gary Neville) และ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (Sir Alex Ferguson) เขาเชื่อว่าประสบการณ์และความเข้าใจของพวกเขาจะมีค่ามากกว่าคนที่ทำงานในสำนักงานที่อาจไม่เข้าใจวงการฟุตบอลอย่างลึกซึ้ง

ท้ายที่สุด โรนัลโด (Ronaldo) แสดงความหวังว่าหาก เทน ฮาก (Ten Hag) รับฟังคำแนะนำจาก ฟาน นิสเตลรอย (Van Nistelrooy) และคนอื่นๆ ที่เคยอยู่ในสโมสร มันจะช่วยพัฒนา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ แม้จะเป็นเพียงเล็กน้อยก็ตาม การสัมภาษณ์ครั้งนี้ของ โรนัลโด (Ronaldo) สะท้อนให้เห็นถึงความรักและความห่วงใยที่เขายังคงมีต่อสโมสรที่เคยร่วมงานมาอย่างยาวนาน พร้อมทั้งแสดงความหวังว่า “ปีศาจแดง” จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งในอนาคต

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo) มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด ทางเข้าsbobet สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

ฆวน มาต้า (Juan Mata) อดีตกองกลางชื่อดังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) และเชลซี (Chelsea) ได้เข้าร่วมทีม เวสเทิร์น ซิดนีย์ วันเดอเรอร์ส (Western Sydney Wanderers) ในศึกเอ-ลีก ออสเตรเลีย โดยเซ็นสัญญา 1 ปี จากการเปิดเผยของเว็ปไซต์ Ufabet เว็ปชื่อดังที่ได้เปิดให้มี การพนันฟุตบอล อย่างถูกกฎหมาย ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับ ฆวน มาต้า หลังจากเป็นนักเตะฟรีเอเยนต์มาตั้งแต่ออกจากทีมวิสเซล โกเบ ของญี่ปุ่นในเดือนมกราคม 2024 นับเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญของนักเตะชาวสเปนวัย 36 ปี ซึ่งเคยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในหลายประเทศ และตอนนี้ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จใหม่ในออสเตรเลีย

การย้ายทีมครั้งสำคัญในช่วงท้ายของอาชีพ

ฆวน มาต้า ผู้เล่นที่เป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอลทั่วโลก เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลด้วยการเล่นให้กับบาเลนเซีย ก่อนที่จะย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกกับเชลซีในปี 2011 ด้วยค่าตัว 23.5 ล้านปอนด์ และกลายเป็นนักเตะคนสำคัญของสโมสรอย่างรวดเร็ว มาต้าช่วยเชลซีคว้าถ้วยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกและเอฟเอคัพในปี 2012 รวมถึงแชมป์ยูโรปาลีกในปี 2013 เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของเชลซีถึงสองครั้งติดต่อกัน จากการเล่นที่ยอดเยี่ยมและความสามารถในการสร้างสรรค์เกม

หลังจากประสบความสำเร็จที่เชลซี มาต้าย้ายไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปี 2014 ด้วยค่าตัวสถิติสโมสร ณ ขณะนั้น 37.1 ล้านปอนด์ ที่แมนฯ ยูไนเต็ด มาต้าช่วยทีมคว้าถ้วยเอฟเอคัพในปี 2016 และยังชนะเลิศอีเอฟแอลคัพและยูโรปาลีกในปี 2017 ก่อนจะอำลาทีมในปี 2022 หลังจากทำประตูได้ 51 ประตูจากการลงสนาม 285 นัดให้กับ “ปีศาจแดง”

ความสำเร็จในระดับนานาชาติ

นอกจากความสำเร็จในระดับสโมสร มาต้ายังเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติสเปนที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในยุคทองของฟุตบอลสเปน เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 และแชมป์ยูโร 2012 รวมถึงยังติดทีมชาติสเปนมากถึง 40 นัด นับเป็นนักเตะที่มีประสบการณ์และมีความสามารถในการเล่นที่หลากหลาย

หลังจากออกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาต้าย้ายไปเล่นในลีกตุรกีให้กับกาลาตาซาราย ในฤดูกาล 2022-2023 เขาช่วยพาทีมคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาลเดียวที่เขาอยู่กับสโมสร ก่อนที่จะย้ายไปเล่นในญี่ปุ่นกับวิสเซล โกเบ แม้เขาจะมีเวลาสั้น ๆ ในญี่ปุ่น แต่เขายังคงเป็นที่จับตามองในวงการฟุตบอล

การผจญภัยครั้งใหม่ในออสเตรเลีย

ในขณะที่มาต้าเตรียมตัวสำหรับการเข้าร่วมทีมเวสเทิร์น ซิดนีย์ วันเดอเรอร์ส เขาได้กล่าวถึงความตื่นเต้นในการเริ่มต้นบทใหม่ในอาชีพการเล่นฟุตบอลของเขา “ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เข้าร่วมทีม เวสเทิร์น ซิดนีย์ วันเดอเรอร์ส ซึ่งเป็นทีมเดียวของออสเตรเลียที่เคยคว้าแชมป์เอเชียน แชมเปี้ยนส์ ลีก และผมแทบรอไม่ไหวที่จะมาฝึกซ้อมกับทีมเพื่อเตรียมตัวสำหรับฤดูกาลใหม่” มาต้ากล่าว นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงความมุ่งมั่นที่จะคว้าแชมป์อีกครั้งในลีกใหม่ที่แตกต่างจากเดิม

การย้ายมาเล่นในลีกออสเตรเลียของมาต้านับเป็นการสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลของเวสเทิร์น ซิดนีย์ วันเดอเรอร์ส และยังเป็นโอกาสที่เขาจะสร้างความสำเร็จอีกครั้งในอีกประเทศหนึ่ง มาต้าเป็นที่รู้จักในฐานะนักเตะที่มีทักษะในการจ่ายบอล การเล่นที่ฉลาด และการควบคุมเกมในตำแหน่งกองกลาง ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อทีมในศึกเอ-ลีก

สรุป

การเข้าร่วมทีม เวสเทิร์น ซิดนีย์ วันเดอเรอร์ส ของ ฆวน มาต้า เป็นการย้ายทีมที่น่าจับตามองในวงการฟุตบอลออสเตรเลีย มาต้าที่มีประสบการณ์มากมายจากการเล่นในลีกชั้นนำของยุโรปและในญี่ปุ่น กำลังเตรียมตัวที่จะเริ่มต้นบทใหม่ในอาชีพของเขาในเอ-ลีก ด้วยสัญญา 1 ปี เขามีเป้าหมายที่จะนำทีมคว้าแชมป์ในลีกใหม่ และยังคงสร้างผลงานที่น่าประทับใจให้กับแฟนบอลทั่วโลก ส่งผลให้บ่อน การพนันฟุตบอล ของออสเตรเลียคึกคักเป็นอย่างมาก

ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับรูปแบบการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไป โดยหนึ่งในคู่ที่น่าสนใจ จากสื่อชื่อดังนัก วิเคราะห์บอลไทย และต่างประเทศ คือการพบกันระหว่างลิเวอร์พูล (Liverpool) และเรอัล มาดริด (Real Madrid) ซึ่งถือเป็นการกลับมาของลิเวอร์พูลในรายการนี้หลังจากการจับสลากในรูปแบบใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

ลิเวอร์พูลซึ่งเคยคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (UEFA Champions League) มาแล้วหลายครั้ง จะต้องเผชิญหน้ากับทีมเรอัล มาดริด ที่เป็นเจ้าของแชมป์ในฤดูกาลที่ผ่านมา การแข่งขันครั้งนี้เป็นหนึ่งในแมตช์ที่หลายคนรอคอย เนื่องจากทั้งสองทีมมีประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำในการพบกันในรายการนี้ ซึ่งทำให้แฟนบอลทั่วโลกจับตามอง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และอาร์เซนอล เตรียมสู้กับทีมแกร่งจากยุโรป

นอกจากลิเวอร์พูลแล้ว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City)และ อาร์เซนอล (Arsenal) สองทีมดังจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ยังต้องเจอกับทีมระดับชั้นนำของยุโรปในรอบลีกนี้ด้วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะพบกับปารีส แซงต์-แชร์กแมง (Paris Saint-Germain)ทีมที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งมีนักเตะระดับโลกอย่างคีเลียน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappé)และเนย์มาร์ (Neymar)ที่จะเป็นตัวทดสอบความแข็งแกร่งของทีมซิตี้

อาร์เซนอลก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก โดยพวกเขาจะต้องเจอกับปารีส แซงต์-แชร์กแมงในเกมเหย้า รวมถึงต้องออกไปเยือนอินเตอร์ มิลาน (Inter Milan)ทีมที่มีผลงานดีในเวทียุโรป การแข่งขันเหล่านี้จะเป็นการทดสอบความสามารถของทีมในระดับสูงสุด และอาจเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่บ่งบอกถึงความพร้อมของพวกเขาในการแข่งขันระดับทวีป

แอสตัน วิลลา กับการพบคู่ต่อสู้ที่ท้าทาย

แอสตัน วิลลา (Aston Villa) อีกหนึ่งทีมจากพรีเมียร์ลีกก็ไม่แพ้กัน พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับเซลติก แชมป์จากสก็อตแลนด์ ในเกมเหย้า นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันกับทีมดังจากยุโรปอื่น ๆ เช่น บาเยิร์น มิวนิค ยูเวนตุส และไลป์ซิก ซึ่งทุกทีมล้วนแล้วแต่มีศักยภาพที่จะสร้างความยากลำบากให้กับวิลลา

การที่แอสตัน วิลลาได้กลับมาสู่การแข่งขันในเวทียุโรปอีกครั้งหลังจากหลายปี ทำให้แฟนบอลของทีมต่างรอคอยที่จะเห็นทีมรักของตนทำผลงานในเวทีระดับทวีป การพบกับทีมยักษ์ใหญ่อย่างบาเยิร์น มิวนิค และยูเวนตุส จะเป็นบททดสอบสำคัญที่จะวัดความแข็งแกร่งและความพร้อมของทีมในการกลับมาสู่เวทีแชมเปียนส์ลีก

การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการแข่งขัน

การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดคือการยกเลิกการแบ่งกลุ่มแบบเดิม ซึ่งถูกแทนที่ด้วย “รอบลีก” ที่แต่ละทีมจะต้องลงเล่นทั้งหมด 8 นัด การแข่งขันในรูปแบบใหม่นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความสนุกสนานและความท้าทายให้กับทีมที่เข้าร่วม

การจับสลากในปีนี้จัดขึ้นที่โมนาโก โดยมีคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นผู้กดปุ่มสำคัญเพื่อให้คอมพิวเตอร์กำหนดการแข่งขัน การจัดวางโปรแกรมการแข่งขันในรูปแบบใหม่นี้ทำให้หลายทีมต้องเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับความท้าทายที่หลากหลาย การแข่งขันที่เข้มข้นและน่าตื่นเต้นจะทำให้แฟนบอลได้สัมผัสกับความสนุกสนานในทุกนัดของแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้

บทสรุป

จากสื่อชื่อดังนัก วิเคราะห์บอลไทย และต่างประเทศ ได้พูดถึงยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้มาพร้อมกับรูปแบบการแข่งขันใหม่ที่ทำให้แต่ละทีมต้องเตรียมตัวอย่างเข้มข้น การพบกันระหว่างลิเวอร์พูลและเรอัล มาดริด รวมถึงการเจอกับทีมชั้นนำอื่น ๆ จะเป็นการทดสอบความสามารถของทีมจากพรีเมียร์ลีกอย่างแท้จริง แฟนบอลทั่วโลกต่างตั้งตารอคอยการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นในทุกนัดของแชมเปียนส์ลีกโฉมใหม่นี้

 

ซน ฮึง-มิน (Son Heung-min)กัปตันทีมท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (Tottenham Hotspur) ได้ออกมาแสดงความปรารถนาผ่านBBCเว็ปไซต์ข่าว ฟุตบอลไทย และต่างประเทศ ที่จะเป็นที่จดจำในฐานะตำนานของสโมสร แม้ว่าเขาจะยังไม่คิดว่าตัวเองจะถึงระดับนั้นในตอนนี้ก็ตาม กองหน้าชาวเกาหลีใต้ที่กำลังจะเข้าสู่ปีที่ 10 กับสโมสรในพรีเมียร์ลีก (Premier League)แห่งนี้ มุ่งมั่นที่จะทิ้งมรดกที่ยิ่งใหญ่ไว้ให้กับทีม แต่ยังยอมรับว่ายังไม่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็นตำนานได้ในขณะนี้

ทศวรรษแห่งการทุ่มเท

ในวัย 32 ปี ซน ฮึง-มิน กำลังจะครบรอบ 10 ปีที่เขาอยู่กับท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในช่วงเวลานั้น เขาได้ลงสนามให้กับทีมมากกว่า 500 นัด และยังทำประตูในลีกได้อย่างน้อย 14 ประตูในแต่ละฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งสร้างสถิติที่ยอดเยี่ยมและทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ไว้วางใจได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก แม้เขาจะเป็นส่วนสำคัญของทีม แต่ซนยังคงตั้งเป้าที่จะทำผลงานให้ดียิ่งขึ้นและทิ้งชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่ไว้ให้กับสโมสร

ซน ฮึง-มิน เริ่มต้นอาชีพกับท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ในปี 2015 และตั้งแต่นั้นมาเขาได้กลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่สำคัญที่สุดของทีม เขาสามารถสร้างความประทับใจในทุกฤดูกาลที่เขาลงเล่น และเป็นคู่หูที่น่ากลัวกับแฮร์รี่ เคน ซึ่งเคยเล่นร่วมกันจนถึงฤดูกาลที่ผ่านมาก่อนที่เคนจะย้ายไปบาเยิร์น มิวนิค

ความปรารถนาที่จะคว้าแชมป์

แม้จะมีผลงานส่วนตัวที่ยอดเยี่ยม แต่ซนยังคงมุ่งมั่นที่จะช่วยทีมคว้าแชมป์ที่สเปอร์สยังไม่สามารถทำได้เลยตั้งแต่คว้าแชมป์ลีกคัพในปี 2008 ซนกล่าวว่า “การอยู่กับทีมเดียวถึง 10 ปีเป็นความพยายามที่ดีมาก ผมคิดว่าคุณต้องมีความสม่ำเสมอในสิ่งนี้และคุณยังต้องมอบบางสิ่งกลับคืนให้กับสโมสรด้วย ผมเข้าร่วมสเปอร์สเพื่อคว้าแชมป์และผมหวังว่าเราจะมีฤดูกาลที่พิเศษ”

ในฤดูกาลที่แล้ว ซนทำประตูได้ 17 ประตูในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของเขา แต่เขาไม่ได้ตั้งเป้าหมายส่วนตัวในฤดูกาลนี้เพราะไม่อยากจำกัดตัวเอง เขากล่าวว่า “ผมต้องการผลักดันตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และไม่เคยรู้สึกว่าพอเพียง ผมต้องการไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในทุกด้าน ทั้งทีมและบุคคล”

ความรับผิดชอบในฐานะกัปตันทีม

ซน ฮึง-มิน ได้รับแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เขาเข้ามาแทนที่ฮูโก้ โยริส อดีตกัปตันทีม ความรับผิดชอบนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับซน แต่เขากลับสนุกกับมัน และใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาตัวเองในบทบาทใหม่

“การเป็นกัปตันทีมในพรีเมียร์ลีกต้องรับผิดชอบมากมาย ผมยังคงเรียนรู้ มันไม่ง่ายเลย แต่ก็เป็นสิ่งที่ดีที่ได้ทำ” ซนกล่าว

ซนยังเสริมว่าเขาพยายามเป็นแบบอย่างที่ดีทั้งในและนอกสนาม เพื่อให้ผู้เล่นรุ่นใหม่ที่เข้ามาในทีมสามารถปฏิบัติตามได้

อนาคตที่สดใสกับสเปอร์ส

สำหรับซน ฮึง-มิน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดยังคงเป็นความฝันที่ต้องการคว้าแชมป์กับท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งเขาหวังว่าจะทำได้ในฤดูกาลนี้ เพื่อให้สามารถถูกจดจำในฐานะตำนานของสโมสรได้อย่างแท้จริง ขอบคุณเนื้อหาข่าวจากBBCเว็ปไซต์ข่าว ฟุตบอลไทย และต่างประเทศ